การบริหารจัดการคู่ธุรกิจเพื่อสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน

เอสซีจีให้ความสำคัญกับความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน องค์กรจึงมุ่งมั่นบริหารจัดการคู่ธุรกิจเพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกคู่ธุรกิจที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมมีความเชี่ยวชาญ และพร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อความยั่งยืนภายใต้แผนบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้เอสซีจียังมุ่งสร้างโอกาสร่วมกันกับคู่ธุรกิจผ่านระบบการประเมินและแผนพัฒนาร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมาย
- คู่ธุรกิจ 95% ของมูลค่าจัดหาลงนามตามจรรยาบรรณคู่ธุรกิจของเอสซีจีภายในปี 2566
- คู่ธุรกิจ 100% ของมูลค่าการจัดหามูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท ผ่านกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG
- 100% คู่ธุรกิจในกระบวนการผลิตผ่านการรับรองความปลอดภัยตั้งแต่ปี 2555 ต่อเนื่องไปทุกปี
กลยุทธ์
1. คัดเลือกและตรวจประเมินคู่ธุรกิจที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
คัดเลือกคู่ธุรกิจโดยคำนึงถึงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ธุรกิจ และศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน จัดการตรวจประเมินและให้การรับรองคู่ธุรกิจทุกรายเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อลดความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน
2. ประเมินความเสี่ยงและการจัดกลุ่มคู่ธุรกิจ
วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายและประเมินความเสี่ยงด้านธุรกิจ ควบคู่กับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) โดยจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี และนำผลมาจัดกลุ่มคู่ธุรกิจเพื่อกำหนดกลยุทธ์และวางแผนพัฒนาคู่ธุรกิจให้สอดคล้องกับความเสี่ยง
3. พัฒนาและยกระดับศักยภาพคู่ธุรกิจสู่ความยั่งยืน
จัดทำแผนพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานให้สอดคล้องกับความเสี่ยง และต่อยอดพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของคู่ธุรกิจให้พร้อมเติบโตไปกับเอสซีจี
4. สร้างความตระหนัก ความรู้ ความสามารถของพนักงาน
การบริหารจัดการ
- จัดการตรวจประเมินความเสี่ยงและให้การรับรองคู่ธุรกิจทุกรายเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยใช้กรอบการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กรและดำเนินการตาม “กรอบการดำเนินงานด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน เอสซีจี” ซึ่งครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ร่วมกับการวิเคราะห์ค่าใช้จ่าย
- จัดกลุ่มคู่ธุรกิจเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคู่ธุรกิจทั่วไปลำดับที่ 1 กลุ่มคู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญ กลุ่มคู่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน และกลุ่มคู่ธุรกิจทางอ้อมรายสำคัญ
- จัดทำแผนพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของคู่ธุรกิจด้านความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เช่น Contractor Safety Management และ SCG Transportation Safety: Sustainability Program
- จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานในกลุ่มวิชาชีพจัดหา พัสดุ และโลจิสติกส์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล วิธีปฏิบัติ ร่วมกับองค์กรจัดซื้อทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
- จัดให้มีคณะกรรมการดูแลการศึกษาการจัดซื้อ (Procurement Sub Academy Steering Committee) เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงาน รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล วิธีปฏิบัติ ร่วมกับองค์กรจัดซื้อทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งงานจัดหาและการพัฒนาคู่ธุรกิจสู่ความยั่งยืน เพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมาย
โครงสร้างการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน : การกำกับดูแลและการดำเนินงานตาม Supplier ESG Program
โครงสร้างการกำกับดูแล
เอสซีจี ได้นำแนวทางการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานมาใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการลดความเสี่ยงและเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กร โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งในระดับองค์กรและระดับธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตลอดห่วงโซ่คุณค่า และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
คณะกรรมการบริษัทคณะกรรมการบริษัทมีบทบาทในการกำกับดูแลนโยบาย กลยุทธ์ และโครงการด้าน ESG สำหรับคู่ธุรกิจโดยไม่เพียงมุ่งเน้นการรับมือกับความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อสร้างการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน
เพื่อให้การดำเนินงานด้านความยั่งยืนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด คณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายให้แก่คณะกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SCG Sustainable Development Committee: SDC) ซึ่งมีกรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจีเป็นประธาน SDC มีหน้าที่กำกับดูแลและผลักดันการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเอสซีจีให้สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กรและเป้าหมาย ESG ภายใต้ SDC ประกอบด้วย 5 คณะอนุกรรมการที่ดูแลมิติต่างๆ ของความยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม หนึ่งในคณะอนุกรรมการที่สำคัญคือ คณะกรรมการ Sustainable Supplier Committee ซึ่งมีบทบาทในการดำเนินโครงการ ESG สำหรับคู่ธุรกิจและเสริมสร้างแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Governance & Economic Excellence Committee เพื่อให้สามารถบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับความท้าทาย และขับเคลื่อนความยั่งยืนได้อย่างเป็นระบบ

SCG Supplier Portal
เป็นแพลตฟอร์มการจัดซื้อจัดจ้างและสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพ สำหรับบริหารและติดต่อกับคู่ธุรกิจของเอสซีจีอย่างต่อเนื่องวัตถุประสงค์หลักคือการบริหารจัดการคู่ธุรกิจผ่านระบบคัดกรองและประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ให้สอดคล้องกับจรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี (SCG Supplier Code of Conduct) ตลอดจนการบริหารจัดการเชิงรุกเพื่อรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ ควบคุมต้นทุน รักษาคุณภาพ และบริหารเวลาการส่งมอบสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
1. การลงนามจรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี (SCG Supplier Code of Conduct) เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณคู่ธุรกิจของเอสซีจี
- การจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บเอกสาร การสื่อสารเกี่ยวกับเกณฑ์การคัดกรองและประเมิน ESG และการติดตามผลการดำเนินงานด้าน ESG ของคู่ธุรกิจ
- ตรวจสอบข้อมูลคู่ธุรกิจ การจัดการเอกสาร และการคัดกรองคู่ธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์ SCG ESG criteria
- การบริหารความเสี่ยงอย่างครบวงจร ประกอบด้วยการประเมินความเสี่ยง การบรรเทาความเสี่ยง และการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกัน รวมถึงการติดตามเสถียรภาพทางการเงิน การตรวจสอบประวัติ และการจัดการการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนด ESG
- การสร้างและรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกกับคู่ธุรกิจผ่านการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน การรับข้อเสนอแนะ และการจัดให้มีช่องทางการแจ้งเบาะแสที่มีประสิทธิภาพ
การพัฒนาพนักงานจัดซื้อจัดจ้าง
เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจของพนักงานจัดซื้อจัดหาเกี่ยวกับเป้าหมาย ESG และแนวปฏิบัติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง Sustainable Supplier Committee ได้พัฒนาระบบ E-learning ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อยกระดับทักษะและศักยภาพของพนักงานจัดซื้อจัดหาทั่วทั้งองค์กรระบบการเรียนรู้ออนไลน์นี้มุ่งส่งเสริมความเข้าใจในกรอบการจัดซื้ออย่างยั่งยืน (Sustainable Procurement Framework) ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่บริษัทในกลุ่มเอสซีจีใช้เป็นมาตรฐานในการทำงานร่วมกับคู่ธุรกิจกรอบการทำงานดังกล่าวได้กำหนดกระบวนการบริหารความเสี่ยงแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) พร้อมแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมตามระดับความเสี่ยง โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญด้านคุณภาพ ปริมาณ และการส่งมอบที่ตรงเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานประกันคุณภาพ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลักสูตรออนไลน์นี้ใช้เวลา 30 นาที และมีการทดสอบหลังเรียน (Post Test) เพื่อวัดและประเมินความเข้าใจของผู้เรียนภายหลังการอบรมอย่างมีประสิทธิภาพ

Supplier Code of Conduct
เอสซีจีดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรมตามหลักบรรษัทภิบาลและจรรยาบรรณเอสซีจี ควบคู่กับความมุ่งมั่นในการดูแล ส่งเสริม สนับสนุนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่ความสมดุลของสังคม สิ่งแวดล้อม และธุรกิจ ให้สามารถเจริญเติบโตควบคู่กันได้อย่างยั่งยืน
เอสซีจีมีเจตนารมณ์ ที่จะส่งเสริมแนวคิดนี้ออกไปยังคู่ธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี จึงได้จัดทำ “จรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี” เพื่อให้คู่ธุรกิจร่วมกันนำหลักการและแนวคิดดังกล่าวไปปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนให้คู่ธุรกิจนำไปขยายผลปรับใช้เป็นนโยบาย มาตรฐานและแนวทางในการดำเนินงานกับคู่ธุรกิจของตนเอง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การออกแบบ การจัดซื้อจัดหา การผลิตสินค้าบริการ การกระจายสินค้า และโลจิสติกส์ รวมถึงการจัดการของเสียและผลิตภัณฑ์หลังการใช้งาน ตลอดจนปฏิบัติตัวเป็นพลเมืองดีควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม

กรอบการดำเนินงานด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน เอสซีจี (SCG Sustainable Procurement Framework)
เอสซีจีให้ความสำคัญกับการจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยพิจารณาและบริหารความเสี่ยงตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต การขนส่ง การซื้อขาย การส่งมอบสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของและป้องกันไม่ให้มีผลกระทบเชิงลบต่อความไว้วางใจของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
กรอบการดำเนินงานด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน เอสซีจี เป็นกรอบการดำเนินงานที่นำไปใช้โดยทุกบริษัทภายใต้การดำเนินงานของเอสซีจี ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ส่วน ได้แก่
- องค์ประกอบที่ 1 การแสดงความมุ่งมั่น (Commitment) เอสซีจี มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้หลักบรรษัทภิบาล และมีเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมแนวคิดนี้ออกไปยังคู่ธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี
- องค์ประกอบที่ 2 การจัดการความเสี่ยงในกระบวนการจัดหา (Procurement Practice towards Supply Chain ESG Risk management Process) เพื่อคัดเลือก ประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยงของคู่ธุรกิจ โดยยึดถือและปฏิบัติตามเนื้อหา และขอบเขตของแนวทางการปฏิบัติภายใต้ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมประเด็นด้านจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ สิทธิมนุษยชน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ตลอดจนกฎหมายและข้อกำหนดอื่นๆ
- องค์ประกอบที่ 3 การวัดผลการดำเนินงาน (Measurement) เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของคู่ธุรกิจและการดำเนินงานในกระบวนการจัดหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้หลักบรรษัทภิบาล
- องค์ประกอบที่ 4 การรายงานและการสื่อสาร (Reporting and Communication) เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของคู่ธุรกิจและการดำเนินงานในกระบวนการจัดหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการสื่อสารข้อมูลและผลการดำเนินงานให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียในแต่ละระดับ
กรอบการดำเนินงานด้านการจัดหาอย่างยั่งยืนเอสซีจีกำหนดขึ้นเพื่อให้ทุกบริษัทภายใต้การดำเนินงานของเอสซีจี นำไปใช้ในการประเมินคู่ธุรกิจเพื่อจัดกลุ่มคู่ธุรกิจในการบริหารความเสี่ยง ได้แก่ Significant Supplier (Critical Supplier + High Potential Sustainability (ESG) Risk Supplier), General Supplier รวมถึงส่งเสริมให้คู่ธุรกิจของคู่ธุรกิจ (*Critical Non-tier1 Supplier) นำกรอบกรอบการดำเนินงานด้านการจัดหาอย่างยั่งยืนเอสซีจีไปใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการจัดการห่วงโซ่อุปทานของตนเอง

ขั้นตอนที่ 1 การคัดเลือกและขึ้นทะเบียนผู้ขาย (Supplier Selection and Approved Vendor List)
การขึ้นทะเบียนผู้ขาย เพื่อการคัดเลือกคู่ธุรกิจทีมีศักยภาพร่วมธุรกิจโดยใช้ข้อกำหนดขั้นต่ำ (Minimum Requirements) เพื่อให้คู่ธุรกิจยึดถือและปฏิบัติตาม โดยมีเนื้อหา และขอบเขตของแนวทางการปฏิบัติภายใต้ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมประเด็นด้านจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ แรงงานสิทธิมนุษยชน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ตลอดจนกฎหมายและข้อกำหนดอื่นๆ
ข้อกำหนดขั้นต่ำ
- การลงนามลงนามปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี หรือ แสดงความมุ่งมั่นปฏิบัติตามแนวทางจรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจีโดยมีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ/ข้อกำหนด/แนวทางดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับจรรยาบรรณคู่ธุรกิจของเอสซีจี เป็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร
- คู่ธุรกิจที่เข้ามาทำงานในพื้นที่รับทราบและปฏิบัติตามกฎพิทักษ์ชีวิต (Life Saving Rules)
- คู่ธุรกิจในกระบวนการผลิตผ่านการรับองความปลอดภัยผู้รับเหมาเครือซิเมนต์ไทย (SCG Subcontractor Safety Certification System: SCS)
ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์การใช้จ่าย (Spend Analysis)
ดำเนินการวิเคราะห์การใช้จ่าย (Spending Analysis) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยงของคู่ธุรกิจ โดยขอบเขตของการวิเคราะห์การใช้จ่ายครอบคลุมการจัดซื้อและการจัดหาทุกประเภท
ขั้นตอนที่ 3 การประเมินคู่ธุรกิจ (Supplier Screening)
ดำเนินการประเมินซัพพลายเออร์โดยพิจารณาผลกระทบของซัพพลายเออร์ต่อความเสี่ยงในการจัดซื้อจัดจ้างและการดำเนินธุรกิจ เพื่อระบุซัพพลายเออร์ที่สำคัญต่อซัพพลายเออร์ที่สำคัญ และการประเมิน ESG เพื่อระบุ *ซัพพลายเออร์สำคัญ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยงทั้งวิกฤตและความยั่งยืนที่มีศักยภาพสูง (ESG) . กระบวนการประเมินซัพพลายเออร์ควรดำเนินการอย่างน้อยปีละครั้งอย่างสม่ำเสมอ ณ สิ้นปี ซึ่งรวมถึงการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแง่มุมทางเศรษฐกิจของซัพพลายเออร์และความยั่งยืนหรือประสิทธิภาพ ESG ซึ่งครอบคลุมปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
การประเมินความเสี่ยง และจัดกลุ่มคู่ธุรกิจ
จัดการประเมินความเสี่ยงในการบริหารห่วงโซ่อุปทานเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี โดยพิจารณาจัดกลุ่มคู่ธุรกิจให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและความสำคัญ โดยใช้กรอบการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร (Enterprise Risk Management) ร่วมกับการวิเคราะห์ค่าใช้จ่าย (Spend Analysis) และเพิ่มความชัดเจนในการพิจารณาความเสี่ยงที่มีผลต่อธุรกิจ เพื่อจำแนกคู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญทางธุรกิจ (Significant Supplier) โดยการพิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (Environmental Social and Governance : ESG)
คู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญทางธุรกิจ (Critical Supplier / Business relevant) พิจารณาจาก
- High Volume เป็นคู่ธุรกิจที่มียอดซื้อสูง (ยอดซื้อที่ถือเป็น High Volume ขึ้นกับทางธุรกิจ/บริษัทกำหนด) และ/หรือ
- Critical Component เป็นคู่ธุรกิจที่ขายสินค้า/บริการที่สำคัญต่อกระบวนการผลิตหรือ
การดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก และ/หรือ - Non-Substitutable/ Oligopoly/ OEM
- Non-Substitutable: เป็นคู่ธุรกิจที่ขายสินค้า/บริการที่ไม่สามารถหาวัสดุ/ผู้ขายรายอื่นมาทดแทนได้
- Oligopoly เป็นคู่ธุรกิจที่ขายสินค้า/บริการที่มีผู้ขายน้อยราย
- OEM (Original Equipment Manufacturer)
คู่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (High Potential Sustainability (ESG) Risk Supplier) ความเสี่ยงที่คำนึงถึงประเด็นด้านความยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับคู่ธุรกิจนั้นๆ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- ความเสี่ยงรายประเทศ (Country-specific risk) เป็นความเสี่ยงที่ เกิดจากความไม่แน่นอนของภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง หรือปัจจัยภายนอกอื่น ๆ เช่น ภัยธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่คู่ธุรกิจตั้งอยู่
- ความเสี่ยงเฉพาะตัวของอุตสาหกรรม (Sector-specific risk) และ/หรือความเสี่ยงเฉพาะตัวของสินค้า (Commodity-specific risk) เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากลักษณะของอุตสาหกรรมที่คู่ธุรกิจอยู่และสินค้าที่คู่ธุรกิจผลิตหรือมีไว้จำหน่าย
โดยหากคู่ธุรกิจไม่สามารถดำเนินการตามข้อกำหนดด้าน ESG ในจรรยาบรรณได้ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะระงับการจัดซื้อจัดจ้างชั่วคราวหรือถอนชื่อออกจากทะเบียนคู่ธุรกิจของบริษัทฯ
คู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญ (Critical Supplier) หมายถึง คู่ธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี เช่น มียอดซื้อสูง เป็นส่วนประกอบสำคัญของสินค้า หรือไม่อาจหาวัสดุ/ผู้ขาย รายอื่นมาทดแทนได้
คู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญ (Critical Supplier) โดยพิจารณาจาก
- High Volume เป็นคู่ธุรกิจที่มียอดซื้อสูง (ยอดซื้อที่ถือเป็น High Volume ขึ้นกับทางธุรกิจ/บริษัทกำหนด) และ/หรือ
- Critical Component เป็นคู่ธุรกิจที่ขายสินค้า/บริการที่สำคัญต่อกระบวนการผลิตหรือการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก และ/หรือ
- Non-Substitutable/ Oligopoly/ OEM
- Non-Substitutable: เป็นคู่ธุรกิจที่ขายสินค้า/บริการที่ไม่สามารถหาวัสดุ/ผู้ขายรายอื่นมาทดแทนได้
- Oligopoly เป็นคู่ธุรกิจที่ขายสินค้า/บริการที่มีผู้ขายน้อยราย
- OEM (Original Equipment Manufacturer) เป็นคู่ธุรกิจที่รับจ้างผลิตสินค้าเป็น House Brand/Private Brand
คู่ธุรกิจทางอ้อมรายสำคัญ (Critical Non-tier 1 Supplier) หมายถึง คู่ธุรกิจที่ไม่ได้ผลิตและจัดจำหน่วยสินค้าและบริการแก่เอสซีจีโดยตรง แต่ติดต่อซื้อขายสินค้าและบริการที่มีความสำคัญต่อคู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญของ เอสซีจี
คู่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (High Potential Sustainability (ESG)
(Risk Supplier) หมายถึง คู่ธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่วยสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มสูงว่าอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบจากการดำเนินการที่ไม่เหมาะสมในเชิงสังคม (เช่น สิทธิมนุษยชน การดูแลพนักงานและแรงงาน) สิ่งแวดล้อม (เช่น การจัดการของเสีย) และการกำกับดูแล (เช่น การปฏิบัติตามกฎหมาย) โดยพิจารณาจาก
- การวัดระดับความรุนแรงผลกระทบของคู่ธุรกิจ (Severity Rating) พิจารณาระดับความรุนแรงของผลกระทบของคู่ธุรกิจ 3 ระดับ คือ ความเสี่ยงน้อย ความเสี่ยงปานกลาง ความเสี่ยงรุนแรง ควบคู่กับหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล
- Environmental Risk ความเสี่ยง/ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยอาทิ การบริหารจัดการน้ำ ของเสีย พลังงาน สารเคมี มลพิษทางอากาศ ก๊าซเรือนกระจก การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
- Social Risk ความเสี่ยงด้านสังคม ความเสี่ยงด้านสังคม อาทิ การจัดการด้านแรงงาน (แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ) สิทธิมนุษยชน สุขภาพ ความปลอดภัย เกิดข้อร้องเรียน หรือไม่เป็นไปตามข้อกฎหมาย หรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
- Business/Governance Risk ความเสี่ยงธุรกิจ/การกำกับดูแล อาทิ การปฏิบัติตามกฎหมาย ภาพลักษณ์องค์กร การดำเนินการตามใบอนุญาต
- การวัดโอกาสที่จะเกิดขึ้น (Likelihood Rating) พิจารณาโอกาสที่จะเกิดขึ้น 3 ระดับ คือ ไม่น่าเกิดขึ้น อาจจะเกิดขึ้น และน่าจะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงมาตรการควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Example of Risk Assessment Metric
ขั้นตอนที่ 4 การจัดกลุ่มคู่ธุรกิจ (Supplier Segmentation)
พิจารณานำผลจากการวิเคราะห์การใช้จ่ายและการประเมินคู่ธุรกิจมาจัดกลุ่มคู่ธุรกิจ เพื่อบริหารจัดการคู่ธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพตามความสำคัญและความเสี่ยง

- คู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญ (Critical Supplier) ดำเนินการตรจสอบและวางแผนปิดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
- คู่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (High Potential Sustainability (ESG) Risk Supplier) ดำเนินการประเมินคู่ธุรกิจ พร้อมวางแผนพัฒนาร่วมกันในระยะยาวเพื่อยกระดับห่วงโซ่อุปทาน
- คู่ธุรกิจทั่วไป (General Supplier) คู่ธุรกิจลงนามปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี หรือ คู่ธุรกิจมีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ/ข้อกำหนด/แนวทางดำเนินธุรกิจ ที่สอดคล้องกับจรรยาบรรณ
- คู่ธุรกิจที่สนใจหรือมีโอกาสทางธุรกิจสูง (Focused or High Opportunity Supplier) ควรพิจารณาโอกาส (Opportunity) ในการสร้างความร่วมมือกับคู่ธุรกิจเพื่อพัฒนาสินค้าหรือบริการ โดย วางแผนร่วมกับคู่ธุรกิจเพื่อพัฒนาและสร้างความก้าวหน้าทางธุรกิจร่วมกัน
Minimum weight of ESG for assessment process*
จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดขั้นต่ำ 70%

ขั้นตอนที่ 5 การตรวจประเมินผู้ขาย (Supplier Assessment and Audit)
เอสซีจีมีกระบวนการประเมินคู่ธุรกิจทั้งแบบ Supplier desk assessments และ Supplier on-site assessments โดยประเมินผลงานของซัพพลายเออร์ในด้านกำหนดการส่งมอบสินค้า ครอบคลุมคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ซึ่งคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความต่อเนื่องทางธุรกิจตามมาตรฐานสากล เช่น ISO9001, ISO14001, ISO45001, ISO50001, TIS/OHSAS18001, UDHR, UNGC, UNGP, and ILO etc.

แนวทางการดำเนินงาน
- ตรวจประเมินความสามารถคู่ธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล
- ใช้แบบสอบถามการตรวจเยี่ยม/การตรวจประเมินคู่ธุรกิจ/Third-Party Audit โดยสอบถามข้อมูล การทำธุรกิจ รวมไปถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล
- ดำเนินการตรวจเยี่ยม/ตรวจประเมินคู่ธุรกิจ/Third-Party Audit โดยแจ้งผลการประเมินพร้อมทั้งแผนพัฒนาคู่ธุรกิจ เพื่อยกระดับความสามารถในการบริหารจัดการองค์กรอย่างยั่งยืน
คู่ธุรกิจที่มีนัยสำคัญ (Critical Supplier/Business relevant) ดำเนินการตรวจประเมินคู่ธุรกิจ ตามลักษณะความเสี่ยงของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
- การประเมิน Plant reliability โดยการเยี่ยมชมและดูแนวทางดำเนินการ
- Supplier Self-assessment
- On-site Audit
- Monitor critical non-tier 1 supplier
- Third-Party Audit
คู่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (High Potential Sustainability (ESG) Risk Supplier) ดำเนินการตรวจประเมินคู่ธุรกิจที่สถานประกอบ โดย Third-Party Audit หรือ โดยหน่วยงานภายในธุรกิจ (On-site) โดยมีเกณฑ์การประเมินด้านการบริหารจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล พร้อมข้อแนะนำเพื่อปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานหากพบจุดที่ควรดำเนินการปรับปรุง

ขั้นตอนที่ 6 การวางแผนพัฒนา (Initiation and Development Plan)
เอสซีจีมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมกับคู่ธุรกิจ สื่อสารความคาดหวังและความตั้งใจเกี่ยวกับการจัดการความยั่งยืน พร้อมสำรวจโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขัน และการทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เอสซีจีกำหนดแผนงาน โครงการ และกิจกรรมที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของคู่ค้าให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท และเสริมสร้างและขยายการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทาน เช่น การจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การรับรองฉลากคาร์บอน การให้คำปรึกษา ความช่วยเหลือด้านคำแนะนำ หลังจากการตรวจประเมิน พิจารณาความเสี่ยงเพื่อสร้างแผนปฏิบัติการที่เหมาะสม โดยมีกรอบการพิจารณาดังนี้ 1.หากความเสี่ยงนั้นเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจของเอสซีจี จะต้องมีแผนงานในการจัดการกับความเสี่ยงดังกล่าว 2.หากความเสี่ยงนั้นเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจต่อคู่ธุรกิจ จะต้องให้คำแนะนำในการปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ High Potential Sustainability (ESG) Risk Supplier มีเพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการแก้ไข หรือแผนป้องกันที่จะต้องมีการติดตามและรายงานผล
Sustainable Supply Chain Measurement
เพื่อให้มั่นใจว่าซัพพลายเออร์ดำเนินงานตามแนวทางความยั่งยืน และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน การประเมินผลการดำเนินงานจึงต้องพิจารณาตามปัจจัยต่อไปนี้

Significant Supplier Monitoring

Supplier with Corrective Action Plan

พัฒนาและยกระดับศักยภาพคู่ธุรกิจสู่ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของคู่ธุรกิจ เอสซีจีได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมที่ครอบคลุม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถในด้าน หลักจริยธรรม การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดทางกฎระเบียบ ความรู้ทางเทคนิค และการบูรณาการหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ลัทภืบาล (ESG) เข้ากับการดำเนินธุรกิจของคู่ธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเอสซีจี และเพื่อหู่ธุรกิจสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากลได้ รวมถึงสามารถปรับตัวต่อความท้าทายด้านความยั่งยืน
SCG ส่งเสริม ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กับคู่ธุรกิจทุกกลุ่ม โดยให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- Focused or High Opportunity Supplier ร่วมมือกับคู่ธุรกิจที่มีศักยภาพในการพัฒนาร่วมกันผ่าน Co-Creation Plan โดย มุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือ กระตุ้นนวัตกรรม และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน เพื่อให้เกิด คุณค่าระยะยาวในห่วงโซ่อุปทาน
- Significant Supplier – Critical Supplier ให้ความสำคัญกับ ความร่วมมือระยะยาวและความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่
- เสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
- รักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยการจัดหาวัสดุและบริการที่จำเป็นอย่างมั่นคง
- สนับสนุนคู่ธุรกิจ ในการนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน
- Significant Supplier – High Potential Sustainability (ESG) Risk Supplier ส่งเสริมแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืน และ ลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยทำงานร่วมกับคู่ธุรกิจเพื่อยกระดับผลการดำเนินงานด้าน ESG ผ่าน 3 มิติหลัก ได้แก่
- Environmental Risk การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการของเสีย การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- Social Risk มาตรฐานแรงงานที่เป็นธรรม ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน สิทธิมนุษยชน
- Governance Risk การปฏิบัติตามกฎหมาย ความซื่อสัตย์ทางธุรกิจ และการกำกับดูแลที่ดี
โครงการพัฒนาและยกระดับศักยภาพคู่ธุรกิจสู่ความยั่งยืน 2024
GHG Scope 3 Supply Chain Decarbonization
ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา SCG ได้ดำเนินโครงการ Supplier Decarbonization Program อย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับศักยภาพของคู่ธุรกิจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 3 โดยโครงการนี้เริ่มต้นด้วย Supplier Day (2022) และต่อยอดไปสู่ Supplier Workshop ครั้งแรกในปี 2023 ซึ่งมีคู่ธุรกิจ 12 รายเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2024 SCG ได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานด้วยการ เก็บรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากคู่ธุรกิจ 113 ราย ในหมวดหมู่ Purchased Goods and Services และ Fuel- and Energy-Related Activities (ไม่รวมอยู่ใน Scope 1 และ Scope 2) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการผลิตและส่งผลกระทบต่อ Scope 3 อย่างมีนัยสำคัญ โดยแบ่งออกเป็น strategic suppliersจำนวน 20 ราย ที่มีระบบติดตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่แล้ว high-impact suppliers จำนวน 93 ราย ที่ยังไม่ได้มีการเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนอกจากนี้ SCG ยังได้จัด Workshop สำหรับhigh-impact suppliers จำนวน 19 ราย เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของ SCG ในการเตรียมความพร้อมให้กับคู่ธุรกิจสำหรับการปฏิบัติตามนโยบายและกฎระเบียบด้านคาร์บอน รวมถึงส่งเสริมแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืน เพื่อให้เกิดการเติบโตร่วมกันในระยะยาว

SCGC Safety Practice Day 2024
“Moving Forward” – Advancing with Care toward Sustainable Safety
SCGC ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงานร่วมกับคู่ธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมุ่งเน้นการกำหนดมาตรฐานการทำงานด้านความปลอดภัยที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง พร้อมทั้งให้ความรู้และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รับฟังความคิดเห็นจากคู่ธุรกิจเพื่อหาแนวทางสนับสนุนการทำงานร่วมกัน และมอบรางวัลเพื่อยกย่องคู่ธุรกิจที่มีผลงานดีเด่นด้านความปลอดภัย
SCGC จึงได้จัดกิจกรรม SCGC Safety Practice Day 2024 ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการส่งเสริมความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน แต่ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ SCGC และคู่ธุรกิจได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ยั่งยืน ซึ่งจะช่วยยกระดับทั้งประสิทธิภาพการดำเนินงานและความปลอดภัยในทุกภาคส่วน โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยมีคู่ธุรกิจเข้าร่วมจำนวน 80 ราย รวม 143 คน ประกอบด้วย
- คู่ธุรกิจที่มีชั่วโมงการเข้าปฏิบัติงานหลักใน SCGC แต่ละพื้นที่ (Site) ช่วงปี 2023-2024
- คู่ธุรกิจที่มีประวัติด้านความปลอดภัย
- คู่ธุรกิจที่ให้ข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับความปลอดภัย
รางวัลที่มอบให้กับคู่ธุรกิจ The Best Safety Performance Award – จำนวน 10 รางวัล Outstanding Engagement Award – จำนวน 7 รางวัล Exemplary Safety Culture Award – จำนวน 1 รางวัล The Best Safety Improvement Award – จำนวน 5 รางวัล และ The Best Operation and Performance on SCGC System – จำนวน 5 รางวัล
การจัดกิจกรรม SCGC Safety Practice Day 2024 ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากคู่ธุรกิจที่เข้าร่วมงาน จากการสำรวจความคิดเห็น พบว่า 97% ของคู่ธุรกิจผู้เข้าร่วมแสดงความพึงพอใจต่อการจัดงานและความรู้ที่ได้รับ กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยสร้างความเข้าใจในมาตรฐานและการจัดการด้านความปลอดภัยของ SCGC แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นในระบบและแนวทางปฏิบัติร่วมกับคู่ธุรกิจด้วย

SCG Smart Living – Housing Product Solution Business: Advancing the Circular Economy
ปัจจุบัน Aluminum Pallet มีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี เมื่อหมดอายุจะถูกขายเป็นเศษวัสดุ (Scrap) ซึ่งมีกระบวนการขาย และใช้ระยะเวลา โดยราคาเศษวัสุด ผันผวนตามราคาตลาดอะลูมิเนียมโลก
ในขณะที่โครงการนี้ จะช่วยปิดความเสี่ยงเกี่ยวด้านต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต New Aluminum Pallet ในอนาคตจากความไม่แน่นอนของราคาตลาดอะลูมิเนียมโลก โดยคู่ธุรกิจรับซื้อคืนในรูปแบบ ราคาประกันล่วงหน้า เพื่อนำไปหลอมและแปรรูปเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตใหม่ ทำให้ทั้งบริษัท และคู่ธุรกิจ สามารถบริหารจัดการต้นทุน อีกทั้งออกแบบมา เพื่อส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงกระบวนการจัดการวัสดุที่หมดอายุการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการรีไซเคิลเพื่อนำวัสดุกลับมาเป็นทรัพยากรหมุนเวียน และเพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพระบบการจัดซื้อ Aluminum Pallet
ในปี 2567 มีคู่ธุรกิจเข้าร่วมโครงการ 3 ราย สามารถสร้าง Value Release จากการเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นแบบประกันราคาล่วงหน้า เพิ่มขึ้นประมาณ 10% เทียบจากการขายเป็นเศษวัสดุ (Scrap) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4 ล้านบาทในปี 2567 พร้อมทั้งลดเวลาในกระบวนการสืบราคารับซื้อและการขออนุมัติได้ประมาณ 500 ชั่วโมงต่อปี หรือ 0.5 ล้านบาท
เอกสารดาวน์โหลด
Green Procurement Guideline
Supplier code of conduct
SCG Procurement and Vendor Selection Policies and Guidelines