Items นวัตกรรมเพื่อสุขอนามัยและความปลอดภัย

นับแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ต่อเนื่องและยาวนานมาถึง 2 ปี ทุกผู้คนจึงต่างตื่นตัว ระมัดระวังและห่วงใยเรื่องสุขอนามัย กิจกรรมทั้งในและนอกบ้านล้วนคำนึงถึงความสะอาดและปลอดภัย โดยเฉพาะกิจกรรมของผู้ปฏิบัติงานและบุคลากรด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19

เอสซีจีจึงสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ และร่วมพัฒนากับผู้เชี่ยวชาญจนได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตรฐานสากลที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น

ปกป้องลมหายใจนักรบชุดขาว

หน้ากาก CUre AIR SURE + ถุงซักผ้าละลายน้ำได้

เพราะกลุ่มบุคลากรด้านสาธารณสุข คือผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงสุดนอกจากอาวุธป้องกันโรคอุบัติใหม่อย่างชุด PPEยารักษาโรค และเครื่องมือทางการแพทย์ สิ่งสำคัญคือ“หน้ากากอนามัยประสิทธิภาพสูง” เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพสำหรับผู้ทำงานใกล้ชิดคนไข้กลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยโควิด 19 SCGP (ธุรกิจแพคเกจจิ้ง) นำวัสดุสมรรถนะสูงอย่างพอลิเมอร์มาต่อยอด โดยจับมือกับทีมวิจัยภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ และสถาบันวิจัยโลหะและวัสดุ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงอีกหลายหน่วยงานร่วมพัฒนาหน้ากาก Respirator “CUre AIR SURE”

หน้ากาก Respirator “CUre AIR SURE”

กรองเชื้อแบคทีเรียและกรองฝุ่นละอองอนุภาคเล็กอย่าง PM 2.5 ได้ถึง 99.9% โดยผ่านเกณฑ์หน้ากากอนามัยชั้นที่ 1ตามมาตรฐานสากล Medical Face Mask ASTM F2100

การออกแบบคำนึงถึงประโยชน์ใช้จริงให้สวมสบายด้วยรูปทรงครอบครึ่งหน้า ขอบซิลิโคนรอบหน้ากากยืดหยุ่นกระชับใบหน้า สวมแล้วไม่ระคายผิว ลดการรั่วไหลของอากาศภายนอกสู่ภายใน และออกแบบช่วงหน้ากากให้กว้างขึ้นเพื่อกักเก็บอากาศ เพิ่มพื้นที่หายใจสะดวก ลดการอับชื้นมีสายรัดศีรษะที่ปรับความยาวได้ และ น้ำหนักเบาเพียง 15% ของหน้ากากอนามัยทั่วไป โดยยังไม่ลืมมองถึงการลดปัญหาขยะพิษ จึงเลือกพลาสติกใส มาขึ้นรูปเป็นหน้ากากที่แข็งแรง สามารถถอดล้างเพื่อทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ หรือเปลี่ยนแผ่นกรองได้ จึงช่วยลดขยะติดเชื้อที่กำจัดได้ยาก

หน้ากาก CUre AIR SURE ได้รับรางวัล Design Excellence Award 2021 กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและดิจิทัล ได้รับความชื่นชมว่าเป็นครั้งแรกที่มีการออกแบบหน้ากากช่วยหายใจแบบอุตสาหกรรมซึ่งมีขนาดพอเหมาะกับโครงหน้าของชาวเอเชีย ซึ่งหน้ากากประเภทนี้ส่วนใหญ่ในตลาดออกแบบให้เหมาะกับทวีปยุโรปและอเมริกา

ปี 2564 SCGP (ธุรกิจแพคเกจจิ้ง) ได้ส่งมอบหน้ากาก CUre AIR SURE กว่า 10,000 ชิ้นให้กับบุคลากรด่านหน้าและหน่วยงานสาธารณสุข

นอกจากอุปกรณ์ป้องกันที่เห็นกันได้ชัดเจน SCGP(ธุรกิจแพคเกจจิ้ง) ยังมองถึง องค์ประกอบอื่นๆ ในกระบวนการปฏิบัติงาน ของบุคลากรสาธารณสุข รวมถึงผู้เกี่ยวข้องอย่างการดูแลเสื้อผ้าของผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงนำความเชี่ยวชาญของ SCGP (ธุรกิจแพคเกจจิ้ง) ในการพัฒนาคุณสมบัติฟิล์ม บรรจุภัณฑ์ละลายน้ำได้ มาพัฒนาเป็น “ถุงซักผ้าละลายน้ำ” สำหรับบรรจุผ้าใช้แล้วที่อาจปนเปื้อน นำเข้าเครื่องซักผ้าโดยไม่ต้องเปิดปากถุงหรือแยกผ้าออก ถุงจะค่อยๆ ละลายในน้ำที่อุณหภูมิสูงกว่า 65 องศาเซลเซียส จนหมดและไม่เหลือสารตกค้างภายใน 3-15 นาที ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผ้าในถุงได้สัมผัสน้ำและน้ำยาซักผ้าตามกระบวนการปกติ นอกจากผู้ทำหน้าที่ซักผ้า จะมีความปลอดภัยมากขึ้น ถุงซักผ้านี้ยังผ่านการทดสอบว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในอนาคตก็เป็นไปได้ที่จะนำไปใช้ สำหรับงานในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมต่อไป

บอดี้การ์ดทันสมัยคุ้มภัยประชาชนหน้ากาก VAROGARD+ เจลและสเปรย์แอลกอฮอล์

เมื่อมาตรการเว้นระยะห่างเป็นกติกาในชีวิตประจำวัน หน้ากากอนามัยเป็นของที่ต้องมีใช้ทุกวัน ไม่ต่างจากชุดเสื้อผ้า ส่วนเจลแอลกอฮอล์ก็ต้องมีติดตัวหรืออยู่ใกล้มือเสมอ

เอสซีจีจึงศึกษาวิธีให้ทุกคนได้ปกป้องตนอย่างดีที่สุดจากการค้นพบสารยับยั้งไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ HeiQ Viroblock จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่ามีผลในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจเคมิคอลส์จึงนำมาใช้เคลือบผ้าเมลต์โบลน (Melt-blown) ซึ่งเดิมเป็นวัสดุผลิตหน้ากากกันฝุ่น แล้วพัฒนา ต่อให้เป็นหน้ากากอนามัยภายใต้ชื่อ “วาโรการ์ด (VAROGARD)”

แตกต่างจากหน้ากากอนามัยแบบแผ่นทั่วไปด้วยรูปทรง3 มิติที่ปกปิดมิดชิดรับกับใบหน้า จึงป้องกันเชื้อโรคได้ดีและออกแบบให้มี 4 ชั้น ชั้นนอกสองชั้นกับชั้นในสุดทำจากผ้าสปันบอนด์จากเส้นใยสังเคราะห์ของพอลิเมอร์ ผิวสัมผัสนุ่ม หายใจสะดวก มีคุณสมบัติสะท้อนน้ำและทรงรูป

หัวใจสำคัญคือชั้นกลางที่เคลือบสารยับยั้งไวรัส SARSCoV-2 ลงบนผ้าเมลต์โบลน “ถือเป็นเทคนิคพิเศษของนักวิจัย” ที่ยากและซับซ้อน แต่ก็สามารถพัฒนาออกสู่ตลาดได้โดยความร่วมมือของธุรกิจเคมิคอลส์กับองค์กรพันธมิตรและผ่านการทดสอบของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล ว่ามีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิด โรคโควิด 19 ได้ถึง 99.99% รวมทั้งยังผ่านการทดสอบคุณภาพเรื่องการกรองแบคทีเรีย (BFE) 99% โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และกรองอนุภาคขนาดเล็กของฝุ่น 0.1 ไมครอน (PFE) ได้ถึง 97%ได้การรับรอง ตามมาตรฐาน EU REACH และ US FIFRA

สำหรับผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ เรียกได้ว่ามีให้ผู้บริโภคเลือกใช้มากมายในตลาด SCGP (ธุรกิจแพคเกจจิ้ง)มุ่งเน้นความห่วงใยไปที่กลุ่มเป้าหมายซึ่งใส่ใจสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะครอบครัวทีมีสมาชิกตัวเล็กที่ผิวบอบบางและแพ้ง่าย จึงพัฒนา “ผลิตภัณฑ์เจลและสเปรย์แอลกอฮอลล์” ภายใต้ชื่อ ALMIND by SCGP ซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% ชนิด Food Grade ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง (Dermatologically Tested) จาก DermScan Asiaเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็กที่บอบบาง

ALMIND by SCGP มีส่วนผสมของสารสำคัญจากธรรมชาติ AQUACELLATM ที่พัฒนาด้วยนาโนเทคโนโลยี เพื่อให้ได้สารสกัดจากเซลลูโลสของต้นยูคาลิปตัส นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติอย่างว่านหางจระเข้และ กลีเซอรีนซึ่งล้วนมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น แห้งไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

ALMIND by SCGP จึงให้ทั้งความสะอาดและบำรุงผิวเหมาะเป็นพิเศษต่อผิวบอบบางของเด็ก แม่ลูกอ่อนผู้สูงอายุ โดยไม่ลืมความใส่ใจสิ่งแวดล้อม บรรจุมาในบรรจุภัณฑ์ Flairosol ซึ่งผลิตจากพลาสติก PETE ที่สามารถรีไซเคิลได้ ฉีดพ่นละอองละเอียดและกระจายทั่วถึงโดยไม่ต้องอัดก๊าซและรีฟิลได้

คุ้มครองผู้อยู่อาศัยภายในบ้านและผู้ประกอบการในอาคาร

ส่งต่ออากาศสะอาดด้วยระบบไอออนกำจัดเชื้อโรค + กระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย

Work from Home กลายเป็นวิถีใหม่ที่ทำให้บ้านมีความหมายมากกว่าที่อาศัยขณะที่สถานที่หลายแห่งอย่างเช่น โรงพยาบาลสำนักงาน โรงงาน ร้านอาหาร ฯลฯ ก็ยังต้องเปิดรับผู้คน

ยุคที่มีทั้งเชื้อโรคไวรัส แบคทีเรีย และฝุ่น ในอากาศผู้คนต่างต้องการอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีอากาศปลอดภัยตามมาตรฐาน และมองหาเทคโนโลยีที่เอื้อต่อสุขภาวะมาใช้ในบ้านและอาคาร โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงหรือต้องดูแลผู้ป่วยโควิด 19

This image has an empty alt attribute; its file name is image-74.png

SCG Smart Building Solution ภายใต้ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบเทคโนโลยี หมวดพลังงานภายในอาคารจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคและลดฝุ่นในอากาศ (SCG Bi-Ionization Air Purifier)” เป็นอุปกรณ์เล็กๆ ซึ่งสามารถซ่อนการติดตั้งไว้ภายในเครื่องปรับอากาศจากนั้นจะสร้างประจุไอออนบวก ไอออนลบ ช่วยกำจัดเชื้อไวรัสต้นเหตุของโควิด 19 แบคทีเรีย เชื้อรา ฝุ่น PM 10-2.5 สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ได้ถึง 90-99% ปรับปรุงอากาศให้สดชื่นในพื้นที่ใช้สอย ในปี 2564 ได้ติดตั้งในโรงพยาบาล อาคารสำนักงานและโรงงานหลายแห่งแล้ว

อีกส่วนหนึ่งของบ้านและอาคารที่อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่มอง ไม่เห็น คือพื้นและผนังที่ผู้อยู่อาศัยมีโอกาสสัมผัสอยู่เป็นประจำ

ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจึงพัฒนากระเบื้องคอตโต้ รุ่น “กระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย (Hygienic Tile) ผสมสารซิลเวอร์นาโน (Silver Nano) ไว้ในชั้นสีของลวดลายกระเบื้องให้ปล่อยประจุบวกมากำจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่ลอยอยู่ในอากาศได้มากกว่ากระเบื้องทั่วไปถึง 90% ตลอดอายุการใช้งาน คุ้มกว่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคถูพื้นซึ่งออกฤทธิ์เพียงขณะใช้งานและหมดฤทธิ์เร็ว

ไม่เพียงอุปกรณ์พื้นผนัง เพื่อให้การดูแลเข้าถึงทุกส่วนของบ้านและอาคาร สุขภัณฑ์คอตโต้ Ultra Clean Plus ซึ่งมีทั้งอ่างล้างหน้าและ สุขภัณฑ์อื่นๆ จึงเคลือบสารซิลเวอร์นาโนไว้ด้วยเช่นกัน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบนพื้นผิวได้มากถึง 99% ลดความเสี่ยงจากการสัมผัส โดยผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน JIS Z-2801

จะเป็นอาคารใหม่หรือเก่า นวัตกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพจะช่วยให้ ผู้อยู่ใต้ชายคาล้วนมีสิทธิ์เข้าถึงสุขอนามัยที่ดี

…….

เอสซีจีมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมด้วยความห่วงใยในสุขภาพและความปลอดภัยของคนทุกกลุ่ม

จากในบ้านถึงนอกบ้าน จากเด็ก ผู้ใหญ่ ถึงบุคลากรสาธารณสุขที่ต้องเผชิญความเสี่ยงสูงสุด

สถานการณ์โรคระบาดและกระแสความใส่ใจต่อสุขภาพจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เอสซีจีพัฒนาธุรกิจเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสังคม