เอสซีจีเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 100 ปี โดยก่อตั้งในประเทศไทยเป็นบริษัทแรกๆ เมื่อปี 2456 ตามพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี และสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งปัจจุบันมีหุ้นบริษัทในพระปรมาภิไธยประมาณร้อยละ 33.6 โดยเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับและเป็นแบบอย่างขององค์กรทั่วไปในด้านบรรษัทภิบาลที่ดี

เอสซีจียึดมั่นในอุดมการณ์ 4 ประการในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องมายาวนาน โดยเชื่อว่าการบริหารจัดการองค์กรด้วยความรับผิดชอบ เป็นธรรม และโปร่งใสตามหลักบรรษัทภิบาล เป็นพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุนการดำเนินกิจการและเพิ่มมูลค่าในระยะยาว สร้างความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยมีคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงประพฤติตนเป็นแบบอย่างในฐานะผู้นำการกำกับดูแลกิจการ (Tone at the Top)

แนวทางในการกำกับดูแล

เอสซีจียึดมั่นและปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกิจการภายในประเทศและหลักเกณฑ์ในระดับสากล โดยคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้รวบรวมองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม ประมวลไว้เป็นคู่มือบรรษัทภิบาลเอสซีจี เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริหาร ในการจัดการองค์กรและธุรกิจ รวมถึงพัฒนาองค์กรให้เป็นแบบอย่างด้านบรรษัทภิบาลตามวิสัยทัศน์ โดยเริ่มจัดพิมพ์และเผยแพรครั้งแรกเมื่อ ปี 2546 และปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2564 ซึ่งได้เผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท www.scg.com

โครงสร้างการกำกับดูแล

ภายใต้บริบททางธุรกิจที่มีความซับซ้อน ผันผวน และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เอสซีจีได้ออกแบบโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอ การติดตามดูแลให้กรรมการและผู้บริหารทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต ตามกฎหมาย ข้อบังคับ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ตลอดจน นโยบายหรือแนวทางที่ได้กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการ

เอสซีจีมีคณะกรรมการบริษัทซึ่งประกอบด้วยบุคคลซึ่งมีความรู้ ความสามารถเป็นที่ยอมรับ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของบริษัท โดยร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ในการกำหนดกลยุทธ์ และนโยบายการดำเนินงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนกำหนดนโยบายการเงิน การบริหารความเสี่ยง และภาพรวมขององค์กร รวมทั้งการทบทวนนโยบายและแผนงานสำคัญของบริษัทเป็นประจำทุกปี มีบทบาทสำคัญในการจัดสรรทรัพยากรสำคัญตามเป้าหมาย ตลอดจนกำกับดูแลตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของเอสซีจี และผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารระดับสูงให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่างเป็นอิสระ

เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับสากล บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องความหลากหลายในโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัท (Board Diversity) ซึ่งประกอบด้วยความหลากหลายทั้งในด้านทักษะ ประสบการณ์ ความรู้ในธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเอสซีจี รวมถึงความชำนาญเฉพาะด้านที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท (Board Skill Matrix) ตลอดจนส่งเสริมให้มีการนำเรื่องความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างของบุคคลตามนโยบายด้านการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล (Diversity and Inclusion Policy) มาเป็นปัจจัยประกอบการพิจารณาและสรรหากรรมการบริษัท โดยไม่มีข้อจำกัดหรือแบ่งแยกในเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ประเทศ ต้นกำเนิด วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นกรรมการให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท

คณะกรรมการชุดย่อย

คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการบรรษัท
ภิบาลและสรรหา คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทน และคณะกรรมการกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเรื่อง และเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาหรืออนุมัติ โดยได้จัดให้มีกฎบัตรเพื่อกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบสำหรับคณะกรรมการชุดย่อยทุกคณะ

คณะกรรมการตรวจสอบ

ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 3 คน ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลการบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแล การปฏิบัติงานและการควบคุมภายใน  สอบทานรายงานทางการเงิน สอบทานการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน รวมถึงสอบทานการกำกับตามกฎเกณฑ์การดำเนินงานให้ถูกต้องตามนโยบายและระเบียบข้อบังคับ ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ และข้อกำหนด ของหน่วยงานกำกับดูแล ส่งเสริมให้พัฒนาระบบรายงานทางการเงิน และบัญชีให้เป็นตามมาตรฐานสากล รวมสอบทานให้มีระบบการควบคุมภายใน ระบบตรวจสอบภายใน และระบบบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม เหมาะสม ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ

กรรมการตรวจสอบทุกคนมีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การทำงานด้านบัญชีและ/หรือการเงินที่เป็นที่ยอมรับ และเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอที่จะทำหน้าที่ในการสอบทานความน่าเชื่อถือของงบการเงินได้ โดยคณะกรรมการตรวจสอบปฏิบัติหน้าที่และสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ 

ทั้งนี้ ในสอบทานรายงานทางการเงิน และสอบทานการควบคุมภายใน คณะกรรมการตรวจสอบให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชีและคุณภาพของการตรวจสอบ จึงได้ศึกษาหลักเกณฑ์การหมุนเวียนสำนักงานสอบบัญชีหรือผู้สอบบัญชีทั้งในและต่างประเทศ และนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรกำหนดให้มีการคัดเลือกสำนักงานสอบบัญชีทุกรอบ 5 ปี โดยเชิญสำนักงานสอบบัญชีชั้นนำมายื่นข้อเสนอการให้บริการงานสอบบัญชี พร้อมทั้งนำเสนอวิธีการตรวจสอบบัญชี รวมถึงการให้บริการอื่น ๆ ต่อคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชี และเสนอคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้ความเห็นชอบ

คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหา

ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 3 คนและกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 1 คนทำหน้าที่กำกับดูแลงานด้านบรรษัท
ภิบาล พิจารณาสรรหาผู้ที่สมควรได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการบริษัทแทนกรรมการที่ครบกำหนดออกตามวาระหรือกรณีอื่น ทบทวนระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย รวมทั้งศึกษาพิจารณาติดตามความเปลี่ยนแปลง และแนวโน้มในเรื่องผลตอบแทนของคณะกรรมการบริษัท

คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทน

ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 4 คน ทำหน้าจัดทำแผนการสืบทอดตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ศึกษา พิจารณา และติดตามความเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มในเรื่องผลตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงเอสซีจี และเสนอเป็นนโยบายค่าตอบแทนต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อสามารถจูงใจให้กับผู้บริหารระดับสูงของเอสซีจีในการบริหารกิจการของบริษัทให้เจริญก้าวหน้า ตลอดจนสามารถรักษาคนเก่งและดีให้คงอยู่กับองค์กร

คณะกรรมการกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ประกอบด้วยกรรมการ 6 คนและฝ่ายจัดการ/ ที่ปรึกษา 3 คน ทำหน้าที่กำกับดูแลการกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ของ เอสซีจี เชื่อมโยงเป้าหมายการดำเนินงานกับเป้าหมายของเอสซีจีและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอแนะการกำหนดงบประมาณประจำปีสำหรับการดำเนินกิจกรรม รวมทั้งติดตามผลการดำเนินงานและรายงานผลต่อคณะกรรมการบริษัท

การกำกับดูแลของคณะกรรมการและคณะกรรมการชุดย่อย ปี 2566

ค่าตอบแทนของกรรมการและผู้บริหารระดับสูง

คณะกรรมการบริษัทมอบหมายให้คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหาพิจารณาเสนอแนวทางและวิธีการจ่ายค่าตอบแทนของคณะกรรมการ คณะกรรมการชุดย่อยตลอดจนติดตามความเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มในเรื่องผลตอบแทนของกรรมการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาและมอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนพิจารณาการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่คณะจัดการเอสซีจี

นโยบายการจ่ายค่าตอบแทนของกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารระดับสูง

เพื่อให้การจัดการค่าตอบแทนมีความเป็นธรรม ถูกต้อง ปราศจากอคติ และสอดคล้องกับลักษณะการบริหารงานที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มธุรกิจ คณะกรรมการบริษัทร่วมกับคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนจะประเมินผลการปฏิบัติงานของกรรมการผู้จัดการใหญ่และ ผู้บริหารระดับสูง โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานทางธุรกิจของบริษัท การดำเนินงานตามนโยบายที่ได้รับจากคณะกรรมการบริษัท ประกอบกับสภาวการณ์เศรษฐกิจและสังคมโดยรวม โดยคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนจะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการพิจารณาค่าตอบแทนที่เหมาะสมของกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารระดับสูงของเอสซีจี เพื่อเสนอคณะกรรมการบริษัทอนุมัติ

เมื่อเดือนมกราคม 2567 คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติเกณฑ์และแนวทางในการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Metric) ทั้งระยะสั้นและระยะยาวของกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารระดับสูงพร้อมตัวชี้วัดด้านการเงิน ESG นวัตกรรมและการเติบโตของธุรกิจ การสร้างคุณค่าแก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย และการบริหารจัดการบุคลากรภายในองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายของเอสซีจี ตามที่คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนเสนอ โดยการประเมินผลการปฏิบัติงานจะพิจารณาจาก:   

ค่าตอบแทนของกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารระดับสูงของเอสซีจี

คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนประเมินผลการปฏิบัติงานของกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารระดับสูง โดยคำนึงถึงผลการดำเนินงานของบริษัท การยึดมั่นในนโยบายของคณะกรรมการ และสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นอยู่ ต่อมาคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนพิจารณาค่าตอบแทนที่เหมาะสมแก่กรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารระดับสูงของเอสซีจี โดยเสนอจำนวนเงินที่แนะนำต่อคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ

การถือหุ้นของผู้บริหาร

เอสซีจียึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตามหลักบรรษัทภิบาลและจรรยาบรรณ
โดยกรรมการและผู้บริหารระดับสูง สามารถซื้อขายและถือครองหุ้นของบริษัทฯ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้กำหนดนโยบายการจัดการข้อมูลภายในที่มีผลต่อราคาหลักทรัพย์ (Insider Trading Policy) และมาตรการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงเวลาก่อนและหลังการเปิดเผยข้อมูลภายใน (Blackout Period) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลภายในโดยมิชอบ

การถือหุ้นของผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหาร

หมายเหตุ :

  1. บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 1,600,000,000 บาท ทุนชำระแล้ว 1,200,000,000 บาท (1,200,000,000 หุ้น)
  2. ประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ ทจ.72/2564 คำว่า “ผู้บริหาร” หมายความว่า ผู้จัดการหรือผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารสี่รายแรกนับต่อจากผู้จัดการลงมา ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารรายที่สี่ทุกราย และให้หมายความรวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารในสายงานบัญชีหรือการเงินที่เป็นระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปหรือเทียบเท่า
  3. ตามโครงสร้างของเอสซีจี ผู้บริหารตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีจำนวนทั้งสิ้น 14 คน ข้างต้น
  4. ผู้เกี่ยวข้อง: ตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หุ้นสามัญของบริษัทที่ถือโดยกรรมการและผู้บริหารให้รวมถึงหุ้นสามัญที่ถือโดยคู่สมรส หรือผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย
  5. ผู้บริหารลำดับที่ 13 และ 14 คือ ผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารในสายงานบัญชีและการเงิน

เอกสารดาวน์โหลด

คู่มือบรรษัทภิบาลเอสซีจี
จรรยาบรรณ เอสซีจี
นโยบายด้านการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล
CEO and Executive Compensation Management
Board Composition and Independence
SCG Board Industry Experience and Expertise

Summary of Enterprise Risk Management Experience of SCG Non-Executive Directors